เมล็ดกาแฟ สูตร SIGNATURE
MEDIUM ROAST ROBUSTA & ARABICA WET PROCESS VS DRY PROCESS RICE FLAVOR, FULL AROMA
คัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพจาก 2 แหล่งปลูกวิถี เกษตรอินทรีย์ด้วยเมล็ดกาแฟโร บัสต้า (ROBUSTA) จาก หุบเขาจ.ชุมพร มาหลอมรวมกับเมล็ดกาแฟอาราบิก้า (ARABICA) จากยอดดอยหลวง จ.เชียงราย
-มีกรรมวิธีการปลูกอย่างสร้างสรรค์ พร้อมดูแลรักษาระบบนิเวศตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ
-สร้างรายได้กระจายสู่ ชุมชน หลอมรวมคนและธรรมชติให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
-เมล็ดกาแฟคัดพิเศษผ่านกระบวนการคั่วอย่าง พิถีพิถัน พัฒนาเป็นสูตรเฉพาะของ "รักบ้านเกิด" จนได้รสชาติกลมกล่อม หอมกรุ่น ละมุน จนเกิดเป็นเสน่ห์ ของการดื่ม เสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา
-ขนาด250 กรัม
มือใหม่คอกาแฟ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกดื่มกาแฟรสชาติแบบไหนดี จะชอบขมๆดื่มแล้วตาสว่างหรือชอบแบบละมุนไม่ขมมากเกินไป แต่อาจไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคือเมล็ดกาแฟคนละสายพันธุ์ ลองไปดูความแตกต่างกันค่ะ
วิธีเก็บรักษากาแฟให้อร่อยอยู่ได้นาน
-ใส่ในภาชนะที่เป็นขวดแก้วแบบทึบแสง มีฝาปิดสนิทและไม่มีความชื้น
เมล็ดกาแฟหากโดนแสงหรืออากาศมากเกินไปจะทำให้กลิ่นจางลงและรสชาติจืด เสื่อมสภาพได้เร็ว ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่โดนแสงมาก ปิดฝาให้สนิทและไม่ให้ภาชนะมีการชื้น แต่หากไม่มีขวดทึบแสงสามารถใช้กระดาษมาห่อได้
-ใส่ในภาชนะที่เป็นถุงซิปล็อกปิดสนิท
การบรรจุในถุงซิปล็อกปิดสนิท ช่วยป้องกันอากาศภายนอกไม่ให้เข้าไปในถุง และไม่ให้เมล็ดกาแฟดูดกลิ่นอื่นเข้าไปในตัวกาแฟได้
-เมล็ดกาแฟควรบดในปริมาณที่ต้องการใช้ในแต่ละครั้งเท่านั้น
ในการจะชงกาแฟทุกครั้ง หากต้องมีการบดเมล็ดกาแฟ แนะนำว่าควรบดกาแฟเฉพาะตอนที่จะชงดื่มเท่านั้น ไม่ควรบดทิ้งไว้ ซึ่งจะทำให้กาแฟเสียคุณภาพอย่างรวดเร็ว
ตัวการที่ทำให้กาแฟเสียรสชาติ
ได้แก่ อากาศ ความร้อน แสงแดดและความชื้น มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเมล็ดกาแฟ หากโดนอากาศมากจะทำให้เกิดการเหม็นหืน หรือถ้ากาแฟสัมผัสกับความชื้นมากกลิ่นของกาแฟจะอ่อนลงอย่างรวดเร็วและหากโดนความร้อนจะทำให้กาแฟเก่าเร็วขึ้นอีกด้วย
แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน กาแฟที่คั่วออกมาใหม่จะมีรสชาติที่ดีที่สุดประมาณ 5-7 วัน และจะค่อยๆเสื่อมสภาพลงตามการเก็บรักษาเพราะด้วยสภาพอากาศของประเทศไทย หากเก็บรักษาได้ดี ไม่โดนแสง ความชื้น อากาศหรือความร้อน จะอยู่ได้ประมาณ 1-3 เดือน แต่หากเปิดทิ้งไว้ตลอดไม่เก็บให้ดีก็จะอยู่ได้เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น