ถ้าพูดถึง "จังหวัดสุรินทร์" ทุกคนคงนึกถึงชายแดนอีสานใต้ที่ผสาน 2 วัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เพราะที่ตั้งของจังหวัดนี้อยู่ติดกับภาคอีสานตอนล่าง ที่นอกจากจะเชื่อมตัวจังหวัดไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ‘ประเทศกัมพูชา’ แล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้ทั่วทุกแห่งหน และเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายประเภท ราวกับต้องมนต์สะกดคุณไว้ที่จังหวัดนี้ แบบไม่ให้หนีไปไหนเลยทีเดียวค่ะ ที่สำคัญยังช่วยเยียวยาสุขภาพจิตและสุขภาพกายจากวิถีสโลว์ไลฟ์อีกด้วย ถ้าพร้อมออกเดินทางแล้วตามแอดมินมาเลยค่ะ

แพ็คกระเป๋าออกเดินทางกันเลยดีกว่า อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้ เพราะที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ ‘ช้างใหญ่’ เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีของดีที่เที่ยวเด็ดซุกซ่อนอยู่อีกเพียบ ที่ "จังหวัดสุรินทร์"

อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) จ.สุรินทร์

มา  ‘จังหวัดสุรินทร์’ ทั้งที ต้องได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอย่างอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุรินทร์อย่าง ‘อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) ’ บุคคลท่านนี้มีความสำคัญอย่างไรกับเมืองสุรินทร์ เพราะท่านผู้นี้คือบุคคลที่บุกเบิกและก่อร่างสร้างเมืองสุรินทร์ให้เจริญรุ่งเรืองเมื่อครั้งในอดีต หรือจะเรียกว่า เป็นเจ้าเมืองคนแรกของ ‘จังหวัดสุรินทร์’ ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยจุดสังเกตที่ทำให้เห็นว่ามาถึงอนุสาวรีย์แล้ว นั่นก็คือ งานช้างสีขาวใหญ่ดูทรงพลัง ที่ตั้งตระหง่านขนาบข้างรูปปั้นอนุสาวรีย์ไว้ทั้ง 2 ด้าน นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ว่า ที่นี่คือ ‘จังหวัดสุรินทร์’ แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความน่ายำเกรงของบุคคลผู้ทรงเป็นพลังและแรงใจให้กับคนในพื้นที่อีกด้วย เนื่องจากความสามารถในการบังคับช้างของท่านเป็นที่เลื่องลือและขจรขจายไปทั่วทุกทิศ

รูปหล่ออนุสาวรีย์ที่ตั้งตระหง่านเป็นทองเหลืองรมดำสูง 2.2 เมตร มือขวาของท่านถือง้าว แสดงให้เห็นถึงความเก่งฉกาจในด้านการรบและการศึก ซึ่งในทุกๆ วันที่ 13 เมษายนของทุกปี ‘จังหวัดสุรินทร์’ จะมีการจัดงานวางพวงมาลาขึ้น เพื่อเป็นการสักการะ ‘พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม)’ พร้อมด้วยหน่วยงานและส่วนราชการต่างๆ แต่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่แห่งนี้เป็นที่สักการะและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยสามารถแวะเวียนไปขอพร ‘พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม)’ กันได้ที่ ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ แต่อาจต้องระวังกันหน่อยนะ เพราะอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดเลย ซึ่งเป็นบริเวณเกาะกลางถนน ผู้ใดที่ต้องการจะเข้าไปไหว้สักการะ อาจจะต้องสำรวจตัวเองตอนข้ามถนนและการจราจรของรถที่สัญจรไปมาบริเวณนั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง

ปราสาทศีขรภูมิ จ.สุรินทร์

หลังจากเข้าไปสักการะ  ‘พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม)’ แล้ว มาแวะเยี่ยมชม ‘ปราสาทศีขรภูมิ’ กันต่อ ถ้าอยากรู้ว่าแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่นี่มีดีอะไรบ้างนั้น อย่างแรกเลยคือ เป็นปราสาทที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบขอมที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยศิลปวัตถุที่ถูกค้นพบจากที่นี่ นักโบราณคดีเชื่อว่า ‘ปราสาทศีขรภูมิ’ น่าจะถูกใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูเพื่อบูชาพระศิวะผู้สร้างโลก โดยตัวปราสาทล้อมรอบไปด้วยปรางค์หมู่ 5 องค์ ภายในปราสาทก่อขึ้นด้วยอิฐเรียงซ้อนกันอย่างมีชั้นเชิง ฐานมีความมั่นคงแข็งแรงด้วยหินศิลาแลง อีกทั้งสถานที่ดังกล่าวยังโอบล้อมด้วยคูน้ำประกบ 3 ด้านอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงปราการของสถานที่ที่มีความแข็งแกร่ง

สิ่งที่วิจิตรกว่าทรงปราสาทและถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดสุดยอดของปราสาทแห่งนี้เลยคือ ภาพแกะสลักหิน เช่น ภาพนางอัปสรา แบบเดียวกับที่ตั้งอยู่ในนครวัด ประเทศกัมพูชา อย่างไรอย่างนั้นเลย ที่สำคัญคือ ‘ปราสาทศีขรภูมิ’เป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวที่มีภาพนางอัปสราปรากฏอยู่ นอกจากนี้ยังมีทับหลังหินที่แกะเป็นภาพพระศิวะเต้นรำ หรือพระศิวะนาฏราชสิบกร โดยมีความเชื่อที่ว่า หากพระองค์ร่ายรำด้วยความอ่อนช้อยงดงาม โลกจะมีแต่ความสันติสุข สงบ และร่มเย็น แต่ถ้าพระองค์ร่ายรำด้วยอารมณ์รุนแรง โลกจะมีความโกลาหลและวิบัติ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เมื่อมาเยือนยังสถานที่ดังกล่าวนี้ ใครที่ชื่นชอบมนต์ขลังความงามเมื่อครั้งอดีต ไปสัมผัสกันได้เลยที่ ต.ระแงง อ.ศิขรภูมิ โดยที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-16.30 น. ค่ะ

Satom Organic Farm

มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร แบบอนุรักษ์กันบ้าง “แซตอม ออร์แกนิคฟาร์ม ” ตั้งอยู่ที่ อ.จอมพระ  เป็นสถานที่ท่องเที่ยววิถีเกษตรและแหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทเกษตรอินทรีย์โดยเน้นข้าวพื้นเมือง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ไวน์จากข้าวพื้นเมือง นอกจากนี้ยังให้บริการที่พักในรูปแบบของฟาร์มสเตย์ริมทุ่งนา สำหรับผู้ชื่นชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติ ที่ต้องการมาพักผ่อน เรียนรู้ และสัมผัสวิถีชนบท ทั้งการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์และกิจกรรมสัมผัสวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ นอนเล่นโฮมสเตย์ เก็บไข่ไก่สด ๆ ถ่ายรูปและจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ กลางทุ่งนา 

ด้วยที่ตั้งที่เดินทางไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก จึงเหมาะที่จะพาครอบครัวมาเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ ๆ จะเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือจะค้างคืน ตื่นมารับแสงอรุณชมบรรยากาศยามเช้าของผืนทุ่งนาเขียวชอุ่มก็ได้เช่นกัน  สำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบท้องถิ่นชนบท มาเที่ยวสุรินทร์ก็สามารถแวะมาที่ Satom Organic Farm กันได้ค่ะ

สถานที่ต่อไปเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของคนท้องถิ่น ต้องบอกก่อนว่าจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะวัฒนธรรมและงานหัตถกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะผ้าไหมไทยที่มีความงดงาม วิจิตรกว่าที่ไหน ๆ นั่นคือ บ้านท่าสว่าง เป็นพื้นที่รวบรวมชาวบ้านที่อนุรักษ์การทอผ้าไหมโบราณ อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ ด้วยเทคนิคการทอผ้ายกทองแบบโบราณผสานกับลวดลายที่วิจิตรงดงาม โดยการทอผ้าแต่ละผืนต้องใช้คนทอเป็นจำนวนมากและใช้เวลาในการทอนานหลายเดือน จึงทำให้มีลวดลายที่ละเอียดสวยงามเป็นเอกลักษณ์ เนื้อละเอียดนุ่มแน่นชนิดที่จับต้องได้  

จากนั้นเข้าไปเยี่ยมชม  โรงทอผ้าไหมจันทร์โสมา โรงทอผ้าไหมตามรูปแบบราชสำนักโบราณในบรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่  ชื่อ“จันทร์โสมา” คือชื่อของแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้ซึ่งถือกำเนิดในตระกูลช่างทอผ้าที่สืบทอดวิชาการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม ย้อมสีธรรมชาติ และทอเป็นผืนผ้ามาหลายชั่วอายุคน นอกจากนี้ยังมีการแสดงทอผ้า ย้อมสีผ้า ทำผ้าหมักโคลน ซึ่งเรียกว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่ต้องมาเยือนให้เห็นกับตาให้ได้ ใครที่ต้องการมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านก็สามารถซื้อสินค้าที่ระลึกหลากหลาย แถมดีไซน์ร่วมสมัย และยังสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วยค่ะ

ทะเลสาบทุ่งกุลา

ส่งท้ายด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงาม รับรองว่าถูกใจสายถ่ายรูปแน่นอนค่ะ ทะเลสาบทุ่งกุลา ตั้งอยู่ใน ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี เป็นหนึ่งในโครงการแก้มลิงอ่างกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่กรมชลประทานขุดเอาไว้ใช้เพื่อการเกษตร โดยในภายหลังน้ำได้เปลี่ยนเป็นสีคราม ว่ากันว่าเมื่อก่อนนั้นบริเวณนี้เป็นที่ผลิตเกลือสินเธาว์ ทำให้น้ำกลายมาเป็นใสสีฟ้าสวยงามเหมือนน้ำทะเล ทำให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่มาพักผ่อนในสถานที่นี้ ได้สัมผัสกับบรรยากาศเย็นสบาย ได้อารมณ์เหมือนกับไปเที่ยวทะเลเลยค่ะ 

‘จังหวัดสุรินทร์’ ถึงจะเป็นถิ่นเมืองช้างแห่งแดนอีสานใต้ ก็มีมุมมองอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ ปราสาทขอม หรือแม้กระทั่งทะเลสาบที่ไม่มีช้าง ก็สามารถเพลิดเพลินและสนุกสนานได้เช่นเดียวกัน รับรองความเด็ดดวงค่ะ 

แต่ถ้า ‘จังหวัดสุรินทร์’ ยังไกลสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลา ก็สามารถดื่มดำไปกับความเป็นเมืองสุรินทร์ก่อนใครได้ที่นี่เลยเว็บไซต์ ของดีจังหวัดสุรินทร์ ที่ซึ่งได้รวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์นานาชนิดจาก ‘จังหวัดสุรินทร์’ เอาไว้มากมาย เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองประสบการณ์ไม่เหมือนใครจากจังหวัดนี้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

https://paimayang.com/

https://www.paiduaykan.com/

https://travel.trueid.net/