"ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จังหวัดลำปาง"
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จังหวัดลำปาง เป็นข้าวสายพันธุ์ดีที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย หุงง่าย กลิ่นหอม รับประทานอร่อย เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย
วิธีหุงข้าว : หากต้องการหุงให้อร่อย ควรผสมกับข้าวหอมมะลิ เพื่อให้ข้าวที่รับประทานเหนียวนุ่มมากขึ้น แต่ถ้าหากต้องการหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่ชนิดเดียวให้ใช้สัดส่วน คือ ข้าว 1 ส่วน : น้ำ 2 ส่วน ใช้เวลาประมาณ 35 นาที แล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก็จะได้รับประทานข้าวไรซ์เบอรี่ที่นุ่ม สีสันน่ารับประทาน
จำหน่าย 1 ชุด มี 3 ถุง
"สาระน่ารู้"
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (Riceberry) เป็นข้าวสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากการผสมสายพันธุ์ของข้าว ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งจะมีลักษณะให้สีม่วงเข้ม เมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีรสชาติหวาน กลมกล่อมชวนรับประทาน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 130 วัน นอกจากนี้รำข้าวและน้ำมันรำข้าวจากข้าวไรซ์เบอรี่ ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดี
ข้าวไรซ์เบอร์รี่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะถือได้ว่าเป็นข้าวที่มีสารอาหารและคุณประโยชน์สูง โดยจำแนกออกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้ดังนี้
1. ผู้สูงวัย ควรได้รับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ซึ่ง ข้าวไรซ์เบอรี่ มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างประสิทธิภาพในการไหลเวียนของเลือด ชะลอความแก่ บำรุงสายตาและระบบประสาท
2. ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วน ที่สามารถเปลี่ยนมารับประทานข้าวไรซ์เบอรี่ที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมน้ำตาลและน้ำหนักได้ เนื่องจากในข้าวสายพันธุ์นี้มีดัชนีน้ำตาลที่ต่ำกว่าข้าวทั่วไป
3. สตรีมีครรภ์ ข้าวสายพันธุ์นี้จะช่วยให้บุตรในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง สามารถป้องกันโรคปากแหว่งเพดานโหว่ได้ เพราะในข้าวไรซ์เบอรี่มีสารโฟเลต อีกทั้งยังมีน้ำตาลต่ำ ช่วยให้มารดาควบคุมน้ำหนักไม่ให้ครรภ์เป็นพิษ นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กสูงซึ่งในหญิงมีครรภ์จะมีความต้องการแร่ธาตุชนิดนี้มากกว่าคนปกติ
4. ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หากรับประทานข้าวไรซ์เบอรี่เป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหาร โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ช่วยในการบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
"ข้าวไรซ์เบอร์รี่รับประทานแล้วไม่อ้วน จริงหรือ?"
ข้าวไรซ์เบอรร์รี่ อุดมไปด้วยธาตุอาหารของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีสรรพคุณช่วยควบคุมน้ำตาลและควบคุมน้ำหนักได้ เนื่องจากข้าวไรซ์เบอร์รี่มีเส้นใยอาหารที่ทำให้คนที่รับประทานข้าวประเภทนี้จะรู้สึกอิ่ม ซึ่งมีสาเหตุมาจากในระบบการย่อยกากเส้นใยนั้นร่างกายจะใช้เวลานาน ทำให้น้ำตาลในแป้งของข้าวค่อยๆย่อย ไม่เร็วจนเกินไป จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ โดยพวกเส้นใยเหล่านี้เองจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเส้นเลือดไม่ให้สูงจนเกินไป จากนั้นเส้นใยจะถูกขับถ่ายออกมาเป็นกากอุจจาระ เมื่อมีกากอุจจาระมากขึ้น ก็ทำให้ช่วยในการขับถ่ายได้ดีขึ้น และยังช่วยลดอาการท้องผูกได้อีกด้วยอีก