ปลากุเลาหอมกางมุ้ง สิเกา
ปลากุเลาหอมกางมุ้ง ผลิตอย่างพิถีพิถัน ใช้วิธีถนอมอาหารจากพลังงานแสงอาทิตย์ สะอาด ปลอดสารเคมี ถูกหลักอนามัย ไม่ใส่สารกันบูด
รสชาติอร่อย เค็มกำลังดี มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ สามารถนำไปทอด เพื่อกินกับข้าวสวย ข้าวต้ม ข้าวเหนียว หรือกินแกล้มกับเมนูอาหารอื่น ๆ ก็เข้ากันได้ดี
สินค้าประกอบด้วย : ปลากุเลาหอม (กางมุ้ง) สิเกา ปลาเค็มกางมุ้ง ศิริวรรณ ขนาด 400 กรัม
กลุ่มอาชีพปลาเค็มกางมุ้งบ่อหิน” มีสมาชิกจำนวน 15 คน โดยมีนางศิริวรรณ ชูเสียงแจ้ว เป็นประธานกลุ่ม ซึ่งกลุ่มและได้รับการเลือกให้เป็น 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ หรือสินค้า OTOP ของตำบลบ่อหิน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง และได้รับการรับรอง OTOP 5 ดาว
ที่สำคัญเป็นแหล่งการเรียนรู้เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปปลาเค็มให้กับกลุ่มต่างๆได้มาเรียนรู้ จุดเริ่มต้นของการทำปลาเค็มกางมุ้ง เดิมคนในชุมชนประกอบอาชีพรับซื้อปลาจากชาวประมงพื้นบ้านเพื่อไปขายตามตลาดนัด ต่อมา ชาวบ้านเริ่มมีการนำปลาสดมาแปรรูปเป็นปลาแดดเดียว ปลาเค็มออกวางขาย ซึ่งสร้างรายได้เป็นอย่างงาม จึงเกิดรวมกลุ่มกันทำปลาเค็ม เพราะว่ามีราคาขายที่สูงกว่าปลาสด สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยเริ่มทำแบบจริงจังตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา
ปลาที่นำมาทำปลาเค็มกางมุ้งจะเป็นปลาสีเสียด ปลาอินทรี ปลาตาโต ปลากุเลา ปลาไส้ตัน โดยการรับซื้อปลาสดมาจากชาวประมงพื้นบ้าน ทั้งในจังหวัดตรัง สตูล กระบี่ ขั้นตอนของการทำปลาเค็มกางมุ้ง มีวิธีการดังนี้ สูตรการหมักปลาใช้ปลาสด 10 กิโลกรัม ต่อเกลือ 1 กิโลกรัม ขั้นตอนแรก ล้างปลาสดให้สะอาด ปลาเล็กตัดหัวออก ควักเอาไส้พุงปลาออก แล้วนำไปล้างอีกครั้ง ก่อนที่จะกรีดเนื้อปลาเป็นแนวยาวตามลำตัว เพื่อให้สามารถคลุกกับเกลือได้เข้ากันดี ต่อด้วยการนำหมักไว้ในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ ประมาณ 1-2 วัน ก่อนที่จะนำออกล้างน้ำเปล่า 2-3 น้ำ แล้วนำไปตากแดดในมุ้ง หรือที่เรียกว่า โรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์แบบเรือนกระจก ลักษณะกึ่งโดม สามารถตากปลาได้ 300-400 กิโลกรัม ป้องกันไม่ให้แมลงวันตอมได้เป็นอย่างดี